เรียบเรียงจากการเสวนาโต๊ะกลม ครั้งที่ 2/2551 ซึ่งจัดโดยฝ่ายวิชาการของสมาคมฯ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2551 ณ ตึกไชยยศสมบัติ 3 . โดยมีวิทยากร 4 ท่านร่วมเสวนา คือ รศ.ดร.พักตร์ผจง วัฒนสินธุ์ รุ่น 29 คุณจุฑา วิวรกิจ และคุณอำพล เรืองธุระกิจ จากรุ่น 36 คุณบรรณ เกษมทรัพย์ รุ่น 46 |
รศ.ดร. พักตร์ผจง ได้เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการมีจริยธรรม และจรรยาบรรณโดยพันธะกิจของจุฬาฯนอกจากจะมุ่งสร้างบัณฑิตที่มีความรู้และทักษะที่ได้มาตรฐานในระดับนานาชาติและเหมาะสมกับสังคมแล้ว ยังมุ่งสร้างนิสิตให้เป็นบัณฑิตที่สามารถครองตนอย่างมีคุณธรรม และเป็นผู้นำสังคมให้เจริญก้าวหน้าและมีความสงบสุขได้ หรืออาจกล่าวสั้นๆว่า คุณธรรมนำความรู้ นั่นเอง |
ความหมายของคำว่า จริยธรรมและจรรยาบรรณ |
จริยธรรม คือ ความสำนึก หรือความประพฤติที่ดีงามเพื่อประโยชน์สุขของตนเองและสังคม จรรยาบรรณ คือ กระบวนความประพฤติที่กลุ่มวิชาชีพหรือสมาคมร่วมกันพิจารณากำหนดขึ้นเพื่อให้สมาชิกในกลุ่มหรือในสังคมนั้นยึดถือ การมีจริยธรรม เริ่มจากการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก แต่ยังไม่เพียงพอ ต้องปฎิบัติตามจารีตประเพณี วัฒนธรรม ปรัชญาด้วย จริยธรรมและคุณธรรม คือบันไดที่เชื่อมไปสู่เป้าหมายของการเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน องค์กรต้องมีธรรมาภิบาล (Good Governance) ซึ่งประกอบด้วยลักษณะดังต่อไปนี้
ธรรมาภิบาลของภาคเอกชน ( Good Corporate Governance) ต้องมี
จรรยาบรรณ ( Code of conduct ) คือ ข้อกำหนดอย่างเป็นทางการว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง และ เหมาะสมโดยต้องคำนึงถึง
|
หากชาวจุฬาฯปฎิบัติตามจรรยาบรรณขององค์กร และในบทบาทของผู้บริหาร บริหารธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล ก็ย่อมก่อให้เกิดการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนและสร้างความสุขให้กับทุกคนได้ |
ดูเพิ่มเติม http://www.shicu.com/new_shicu/183.0.html